“วัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย”

เด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 12 ปี ควรได้รับวัคซีนวัคซีนพื้นฐานและวัคซีนจำเป็นแต่ละวัยตามตารางวัคซีนของสมาคมโรคติดเชื้อเด็ก ซึ่งจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย หรือหากป่วยก็จะมีอาการไม่รุนแรง และไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล

เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานและสร้างเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญก้าวหน้า สามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคสำหรับเด็กได้ครอบคลุม  ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์ถึงวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นแต่ละชนิดที่ควรได้รับตามวัยของลูกน้อย

วัคซีนพื้นฐาน
               สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทยประกาศตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดไว้ว่าเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนจำเป็นขั้นพื้นฐาน เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันตามช่วงวัย ดังนี้

วัคซีนวัณโรค (BCG) ควรได้รับตั้งแต่แรกเกิด โดยฉีดที่บริเวณไหล่ซ้าย ซึ่งปกติโรงพยาบาลจะฉีดให้ทารกก่อนกลับบ้าน

วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) ต้องได้รับทั้งหมด 3 เข็ม โดยฉีดเข็มแรกตั้งแต่แรกเกิด เข็มที่สองเมื่ออายุครบ 1 เดือน และเข็มสุดท้ายเมื่อเด็กครบ 6 เดือน

วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DPT) โดยฉีดชุดแรก 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน หลังจากนั้นควรมีการฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน และเมื่อมีอายุ 4-6 ปี และฉีดเฉพาะ คอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน สำหรับเด็กโต

วัคซีนโปลิโอ โดยใช้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีดร่วมกับวัคซีนโปลิโอรูปแบบกิน โดยเด็กๆ จะได้รับการหยอดวัคซีนโปลิโอรูปแบบกินจำนวน 5 ครั้ง เมื่ออายุ 2 , 4, 6 เดือน, 1 ปี 6 เดือน และ 4 ปี และต้องได้รับวัคซีนโปลิโอชนิดฉีดเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน 1 ครั้ง เมื่อเด็กอายุ 4 เดือน

วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม(MMR) / วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) ควรฉีดตามช่วงอายุคือ 1 ปี และ 2 ปี 6 เดือน

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 18 ปี โดยปีแรก ฉีด2 เข็ม เว้นระยะห่างกัน 4 สัปดาห์

วัคซีนเอชพีวี (HPV) ควรฉีดตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป สามารถป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี สาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ถึง 70-90 %

วัคซีนเด็กอื่นๆ เสริมภูมิต้านทานโรค

นอกจากวัคซีนขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญสำหรับเด็กๆ แล้ว ยังมีวัคซีนเพื่อเสริมภูมิต้านทานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของเด็ก โดยวัคซีนเสริมที่แนะนำ ดังนี้

วัคซีนโรตาไวรัส (rotavirus) ช่วยปกป้องโรคโรตาไวรัส เด็กๆ สามารถรับวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 2 และ 4 เดือน วัคซีนนิวโมคอคคัส ป้องกันปอดอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ โดยวัคซีนชนิด PCV ควรฉีดในช่วงอายุ 2 เดือน 4 เดือนและ 6 เดือน จากนั้นจึงฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 1 ปี ถึง 1 ปี 3 เดือน สำหรับวัคซีนชนิด PS23 สามารถฉีดได้ในช่วงอายุ 2 ปี ขึ้นไป

วัคซีนฮิบ หรือวัคซีนป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย ฮีโมฟีลุส อินฟลูเอนเซ ชนิดบี (Haemophilus influenzae type b Vaccine) เป็นวัคซีนรวม 1 เข็ม ป้องกันได้ 5 โรค คือ คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ตับอักเสบบี เยื่อหุ้มสมองอักเสบฮิบ (DTwP-HB-Hib) โดยฉีด 3 ครั้ง ตั้งแต่เด็กอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน

วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ฉีดรวมทั้งหมด 2 เข็ม ตามช่วงอายุ ตั้งแต่ 2 ปีครึ่ง และอีกครั้งเมื่ออายุ 4-6 ปี

วัคซีนตับอักเสบ เอ ต้องฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 6-12 เดือน โดยสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป

วัคซีนไข้เลือดออก แนะนำให้ฉีด วัคซีนในเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไป โดยฉีด 3 ครั้ง เว้นระยะ 6 เดือน และ 12 เดือนจากการฉีดเข็มแรก

เด็กๆ ทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิด เพื่อช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานและสร้างเกราะป้องกันโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะปัจจุบันที่เทคโนโลยีทางการแพทย์เจริญก้าวหน้า สามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคสำหรับเด็กได้ครอบคลุม ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษากุมารแพทย์ถึงวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นแต่ละชนิดที่ควรได้รับตามวัยของลูกน้อย

Message us